หมอนรองกระดูกต้นคอเสื่อม

หมอนรองกระดูกเสื่อม

อาการของโรคกระดูกต้นคอเสื่อม

อาการของโรคกระดูกต้นคอเสื่อมที่ชัดๆคือ

  • ปวดคอ เคลื่อนไหวตัวได้ยาก และจะปวดมากขึ้นเวลานั่งหรือยืน
  • ปวดตรงกลางคอ ร้าวมาปวดที่สะบักด้านในบริเวณไหล่
  • ปวดร้าวลงแขนที่มือ แล้วมีอาการชาร่วมด้วย

จริงๆด้วยวิถีการใช้ชีวิตของคนสมัยนี้ ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานๆและใช้โทรศัพท์มือถือนานๆ หากไปตรวจละเอียดกันจริงๆ จะพบว่าหลายๆคนมีปัญหาเรื่องกระดูกต้นคอ ถึงแม้ว่าจะยังเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ตาม แต่การแสดงอาการของโรคอาจแตกต่างกัน

กระดูกคอเสื่อม เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยวัยกลางคนและผู้สูงอายุ (แต่เดี๋ยวนี้วัยรุ่นก็เป็นกันเยอะค่ะ) โดยสาเหตุเกิดจากความเสื่อมของกระดูกคอและหมอนรองกระดูกคอ ซึ่งอาการจะเป็นมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น บางรายไม่แสดงอาการ บางรายมีอาการร่วมด้วยมากน้อยแตกต่างกัน หากมีความเสื่อมมาก ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดหรือชา สาเหตุมาจากข้อต่อบริเวณคอเสื่อมและอักเสบ กล้ามเนื้อคอทำงานหนักมากขึ้น ช่องเส้นประสาทบริเวณคอปิดแคบลงทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ รวมไปถึงการขยับของหมอนรองกระดูกคอที่ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม

โดยอาการที่เป็นไปได้จากกระดูกคอและหมอนรองกระดูกคอเสื่อม คือ

  1. อาการปวดคอ สะบัก ร้าวไปที่แขน บางรายร้าวไปถึงมือ อาการสัมพันธ์กับท่าทางของคอโดยเฉพาะท่าหันและเงยศีรษะ
  2. ปวดแปล๊บๆ เหมือนไฟดูด หรือมีอาการชาบริเวณดังกล่าว ร้าวไปที่แขนมือ หรือ บริเวณนิ้ว
  3. มืออ่อนแรง ยกขวดน้ำ หรือแก้วน้ำไม่ไหว
  4. ผู้ป่วยมีอาการเดินได้ลำบากขึ้น ทรงตัวได้แย่ลง หากเป็นมากขึ้นจะเดินช้าลงและเดินกางขาโดยไม่รู้ตัว
  5. หากการกดทับเส้นประสาทเป็นไปมากแล้วผู้ป่วยจะไม่สามารถกกลั้นปัสสาวะหรือกลั้นอุจจาระได้

สาเหตุของโรคกระดูกต้นคอเสื่อม

อาการเหล่านี้ มีสาเหตุได้จาก

  1. ตัวหมอนรองกระดูกนั้นมีอาการเสื่อมร่วมกับเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้หมอนรองกระดูกมีความสูงที่ลดลง หากทรุดลงมากอาจพบกระดูกคอเกิดการสัมผัสกดกัน เกิดอาการปวดขึ้น
  2. เกิดจากหมอนรองกระดูกคอมีการเคลื่อนหรือแตก ส่งผลให้ตัวเนื้อหมอนรองกระดูกนั้นไปทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการปวดร้าว ชา หรืออ่อนแรงบริเวณสะบัก แขน หรือมือได้
  3. กระดูกงอก เมื่อความเสื่อมเป็นไปมากขึ้น ตัวกระดูกคอจะมีการงอกออกมาเพื่อทดแทนความแข็งแรงของกระดูกคอและหมอนรองกระดูกคอที่เสื่อมไป กระดูกที่งอกออกมานี้เองที่จะกดทับต่อเส้นประสาทคอ หรือโคนเส้นประสาทคอ ส่งผลทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้
  4. เกิดจากการตึงตัวและการอักเสบของตัวเอ็นที่อยู่รอบๆ ข้อต่อกระดูกคอ ส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวบริเวณคอ ได้โดยอาการจะสัมพันธ์กับท่าทางและกิจกรรมต่างๆ

การวินิจฉัยกระดูกต้นคอเสื่อม

สามารถวินิจฉัยจากอาการ ประวัติความเจ็บป่วยและตรวจร่างกาย ทำ X-Ray และ MRI โดยอาการเข้ากันกับหลักฐานจากภาพ X-Ray และ MRI

โดยการฝังเข็มตามหลักแพทย์แผนจีนสามารถทุเลาอาการปวดและอาการชาจากกระดูกต้นคอเสื่อมได้เช่นกัน ปลอดภัยและได้ผลการรักษาค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ คนไข้สามารถลดการใช้ยาแก้ปวดได้ และใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่เป็นอุปสรรค โดยส่วนมากการรักษาอย่างน้อยที่สุดอยู่ที่ 6 ครั้ง และความถี่ในการมารับการรักษาคือทุกๆ 5-7 วัน มารักษาตามนัดและแผนการรักษาที่วางไว้

 รายละเอียดการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล  ปัจจัยการฟื้นตัวของคนไข้ขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้ ระยะเวลาที่เป็น ความหนักเบาของอาการ อายุของคนไข้ โรคประจำตัวและความต่อเนื่องในการรักษาค่ะ  ให้การผ่าตัดเป็นทางเลือกสุดท้ายนะคะ

Scroll to Top